ในวันที่ 31 ธ.ค. 60 อ.ศรีสุดา ประราศรี และญาติธรรม เดินไปทาง วัดน้ำฮู อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อไปสักการะพระอุ่นเมือง พระคู่เมืองปาย พร้อมสวดมนต์ข้ามปีเพื่อเสริมมงคล ขอพรรับปีใหม่
ประวัติพระอุ่นเมือง
พระอุ่นเมืองนั้นเป็นพระพุทธรูปสิงห์สาม ปางมารวิชัยหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 24นิ้ว สูง 30นิ้ว ส่วนพระเศียรกลวงมีพระเมาฬีครอบ ซึ่งวัดน้ำฮูนั้นรกร้างอยู่เป็นเวลานาน กระทั่งในปี พ.ศ. 2468ผู้ใหญ่ทอน และ นายเห็งพงษ์พงษ์คำเต็ม พร้อมด้วยชาวบ้านน้ำฮู ได้สร้างศาลาประดิษฐานพระพุทธรูปซึ่งอยู่โคนไม้พร้อมด้วยซากปรักหักพังของเจดีย์ และในปี พ.ศ.2474 ครูบาศรีวิชัยนักบุญล้านนาไทย ได้นำคณะศิษยานุศิษย์เดินธุดงค์มายังอำเภอปาย ได้เห็นสภาพทรุดโทรมของวัดและพบพระพุทธรูปดังกล่าว จึงได้สร้างวิหารขึ้นหนึ่งหลังสำหรับประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมกับสร้างเจดีย์ขึ้นด้านหลังวิหาร 1 องค์
เรื่องราวของหลวงพ่ออุ่นเมืององค์นี้เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ โดยมีเรื่องเล่าว่า เมื่อ ปี พ.ศ.2515 มีพระธุดงค์จากต่างจังหวัดมาพักที่วัด ได้สังเกตเห็นพระพักตร์ของพระพุทธรูปเป็นโพรงพระโมฬีถอดได้ และในโพรงนั้นมีน้ำขังอยู่เต็ม จึงสอบถามชาวบ้านและเจ้าอาวาส ก็ไม่มีใครทราบมาก่อน เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือกันอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่มีใครกล้าพิสูจน์ความจริง จนในปี พ.ศ.2516ร.อ.ประเสริฐ เรียมศรี นายอำเภอปาย พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการอำเภอปาย ได้ร่วมทำการอธิษฐานของพิสูจน์ข้อเท็จจริง โดยความร่วมมือจากเจ้าอาวาสและศรัทธาได้ตักน้ำออกจากพระเศียรทั้งหมด และใช้สำลีเช็ดจนแห้งสนิท ทำการปิดพระเศียรผูกเชือกประทับตราครั่ง ปิดหน้าต่าง ประตูทุกบาน ห้ามคนเข้าออกกำหนดเวลา 5 วัน เมื่อครบกำหนดได้ทำการเปิดต่อหน้าคณะทำการพิสูจน์ชุดเดิม ผลปรากฏว่ากลับมีน้ำขังอยู่ในเศียรของพระพุทธรูป ซึ่งเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่ง นับแต่นั้นมาก็มีประชาชนทุกสารทิศได้เข้ามากราบไหว้หลวงพ่ออุ่นเมืองอยู่เสมอ



คลิ๊ก....ชมภาพการทำบุญและสวดมนต์